FAQ คำถามที่พบบ่อยในการรับประทานโปรไบโอติก PRO10

FAQ คำถามที่พบบ่อยในการรับประทานโปรไบโอติก PRO10

Probiotics คืออะไร

โปรไบโอติก คือจุลินทรีย์ที่ดีที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของเราตั้งแต่เป็นทารก แต่จะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โปรไบโอติกมีหน้าที่ช่วยสร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย ส่งผลถึงระบบภูมิคุ้มกัน ยกตัวอย่างเช่นแบคทีเรียแลคโตบาซิลัส (Lactobacillus) และ ไบฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) หากร่างกายขาดโปรไบโอติกเหล่านี้จะทำให้เกิดภาวะผิดปกติ เช่น ท้องผูก ลำไส้แปรปรวน ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น  อ่านเพิ่มเติม  1

Prebiotic คืออะไร

พรีไบโอติก (Prebiotic) คือ อาหารจำพวกไฟเบอร์ที่ร่างกายที่ไม่สามารถย่อยและไม่ดูดซึมในระบบทางเดินอาหาร แต่ถูกย่อยด้วยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ เป็นส่วนส่งเสริมการทำงานของโปรไบโอติก (Probiotics) เพราะช่วยกระตุ้นการทำงานของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ มีลักษณะเป็นใยอาหารช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและช่วยบรรเทาอาการท้องผูก 2

ประโยชน์ที่ได้รับจากการรับประทาน Pro10

  • การรับประทานโปรไบโอติกที่มีจุลินทรีย์มากถึง 10,000 ล้านตัว (CFU) มีปริมาณสูงเพียงพอที่จะก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ 3
  • ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารให้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ ลดภาวะท้องผูก ท้องเสีย บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน 4,5
  • ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน 4 บรรเทาอาการภูมิแพ้ผิวหนัง6 และโรคทางเดินหายใจ7
  • ช่วยลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า8,9
  • มีส่วนช่วยเรื่องกลิ่นปาก10,11 และฟันผุ12
  • มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ไขมันเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ โดยช่วยลดการดูดซึมไขมันกระตุ้นการกำจัดไขมัน และช่วยย่อยเกลือน้ำดีให้อยู่ในรูปที่ขับออกทางอุจจาระได้ง่าย13,14

PRO10 มีประโยชน์ต่อการลดไขมัน หรือการลดน้ำหนักอย่างไร

โปรเท็นมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (TC), ไขมันเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ได้ โดยช่วยลดการดูดซึมไขมัน กระตุ้นการกำจัดไขมันออกจากร่างกาย 13,14

Probiotics 10 สายพันธุ์ที่มีอยู่ใน PRO10 มีอะไรบ้าง

       จุลินทรีย์โปรไบโอติกที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ Pro10 มีถึง 10 สายพันธุ์  ได้แก่

  1. แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส (Lactobacillus rhamnosus)
  2. แล็กโทบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส (Lactobacillus acidophilus)
  3. แล็กโทบาซิลลัส พาราคาเซอิ (Lactobacillus paracasei)
  4. แล็กโทบาซิลลัส ซาลิวาเรียส (Lactobacillus salivarius)
  5. แล็กโทบาซิลลัส แก็สเซอรี (Lactobacillus gasseri)
  6. บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว (Bifidobacterium breve)
  7. บิฟิโดแบคทีเรียม บิฟิดัม (Bifidobacterium bifidum)
  8. บิฟิโดแบคทีเรียม ลองกัม (Bifidobacterium longum)
  9. บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (Bifidobacterium lactis)
  10. แล็กโทบาซิลลัส รียูเทอรี (Lactobacillus reuteri)

โปรไบโอติกสายพันธุ์เด่นที่สุด ได้แก่ Lactobacillus acidophilus (สายพันธุ์ DDS-1) ใน PRO10 เป็นแบคทีเรียที่ทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร (pH 3.0, มีเอนไซม์ pepsin) ทนต่อเกลือน้ำดีในลำไส้ และเอนไซม์จากตับอ่อน มีอัตราการรอดชีวิตไปถึงลำไส้ใหญ่สูงกว่าโปรไบโอติกสายพันธุ์อื่น และมีความสามารถในการยึดเกาะผนังลำไส้ได้ดี

Prebiotics ที่มีอยู่ใน PRO10 มีอะไรบ้าง

พรีไบโอติกที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ Pro10 ได้แก่
  • ฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์ (Fructo-oligosaccharide)เป็นคาร์โบไฮเดรตสายสั้น พบได้ในผักผลไม้ เช่น ชิโครี อาร์ติโชค หัวหอม กล้วย และกระเทียม16
  • กาแลคโต-โอลิโกแซ็กคาไรด์ (Galacto-oligosaccharide) เป็นคาร์โบไฮเดรตสายสั้น พบได้ในนมแม่ตามธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์จากนม ถั่ว และผักบางชนิด17
  • อินูลิน (Inulin) เป็นคาร์โบไฮเดรตประเภทโพลีแซคคาไรด์ที่ละลายน้ำได้ มีลักษณะเป็นเส้นใย พบได้ตามธรรมชาติในพืชผักผลไม้ ได้แก่ รากชิโครี อาร์ติโชค หน่อไม้ฝรั่ง ต้นหอม หัวหอม กล้วย ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และกระเทียม 16 (ใน PRO10 มาจากรากชิโครี)
พรีไบโอติกทั้ง 3 ชนิด ไม่ถูกย่อยในทางเดินอาหาร มีคุณสมบัติสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานของแบคทีเรียชนิดดีในทางเดินหรือโปรไบโอติกนั่นเอง2
ทำไม PRO10 ต้องมี probiotics ถึง 10 สายพันธุ์ และมีจำนวนถึง 10 10 CFU
เพราะ probiotic แต่ละสายพันธุ์มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ probiotics หลากหลายสายพันธุ์จึงมีประสิทธิภาพมากกว่าทั้งในด้านการทำงาน เช่น ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ลดการเกิด IBS ลดภาวะท้องเสีย กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ และส่งเสริมการเจริญเติบโตซึ่งกันและกัน และการที่มีปริมาณสูงเพียงพอจะก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ ตัวอย่างการศึกษาในมนุษย์พบว่าการรับประทาน probiotics ที่ปริมาณ 109-1010 CFU/วัน ช่วยลดการเกิดภาวะท้องเสียจากการใช้ยาปฏิชีวนะ และภาวะท้องผูก3

PRO10 มีโปรไบโอติกและพรีไบโอติกที่มีอยู่ในนมแม่ คืออะไร

โพรไบโอติก PRO10 มีบิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่พบในลำไส้ใหญ่ของทารกที่ได้ดื่มนมแม่ เป็นปริมาณประมาณ 95% ของจำนวนแบคทีเรียทั้งหมดในร่างกาย และจะมีปริมาณลดลงเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ส่วนแล็กโทบาซิลลัส (Lactobacillus) เป็นแบคทีเรียที่ทารกจะได้รับผ่านการคลอด (จากช่องคลอดของแม่) พรีไบโอติก Galacto-oligosaccharide พบได้ในนมแม่ตามธรรมชาติ 17

สังกะสี และวิตามินดีใน PRO10 มีประโยชน์อย่างไร

  •   ช่วยเสริมความแข็งแรงของเยื่อบุลำไส้และมีผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้
สังกะสีสามารถช่วยเสริมความแข็งแรงของผนังลำไส้ (epithelial barrier) โดยป้องกันความเสียหายต่อ Tight junctions ที่เชื่อมต่อระหว่างเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้ จึงป้องกันการเกิดภาวะลำไส้รั่วได้ การขาดสังกะสีมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD) ท้องเสีย และส่งผลให้ความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้ลดลง 20
วิตามินดีมีบทบาทในการส่งเสริมความสมบูรณ์ของผนังลำไส้เช่นกัน โดยเพิ่มการแสดงออกของโปรตีนบางชนิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ tight junctions การขาดวิตามินดีส่งผลให้เยื่อเมือกของลำไส้ถูกทำลายได้ง่ายขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงของโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD) นอกจากนี้วิตามินดียังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทำลายเชื้อก่อโรคได้อีกด้วย 21
  • เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
สังกะสีช่วยในการตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมของเม็ดเลือดขาว มีผลกับการเจริญเติบโตของเม็ดเลือดขาวบางชนิด จึงเสริมการทำงานภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นได้22 เช่นเดียวกับวิตามินดีที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเช่นกัน

PRO10 มีน้ำตาล หรือให้พลังงานหรือไม่

     PRO10 ไม่มีน้ำตาลแล็กโทส (ผู้ที่มีภาวะ Lactose intolerance สามารถรับประทานได้) ให้พลังงานต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

PRO10 ต่างจากผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ Detox หรือยาระบายอย่างไร

   ใน PRO10 มีส่วนประกอบที่เป็นใยอาหาร (Fiber) ได้แก่ อินูลิน และผงบลูเบอร์รี ช่วยเพิ่มมวลอุจจาระ ทำให้การทำงานของลำไส้และการขับถ่ายเป็นปกติ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์อื่น ๆ ในท้องตลาด แต่สิ่งที่ PRO10 แตกต่างจากไฟเบอร์หรือยาระบายอื่นๆคือ PRO10 มีจุลินทรีย์โพรไบโอติก และพรีไบโอติกซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของโพรไบโอติก เพิ่มเข้าไปด้วย จึงมีความสามารถในการปรับสมดุลจุลินทรีย์ภายในลำไส้ ลดเชื้อก่อโรค ทำให้การขับถ่ายกลับมาปกติ และบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น ท้องเสีย ภาวะลำไส้แปรปรวนได้

ข้อเสียของการทานยาถ่ายกับไฟเบอร์เป็นประจำ

การรับประทานยาถ่ายที่มีฤทธิ์กระตุ้นลำไส้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ลำไส้ไม่สามารถขับถ่ายได้ตามปกติ ขับถ่ายยาก ต้องเพิ่มขนาดยาไปเรื่อยๆ และการรับประทานไฟเบอร์อย่างเดียวมากเกินไปและดื่มน้ำไม่เพียงพอ อาจทำให้ท้องอืด ปวดท้อง หรือท้องผูกมากกว่าเดิมได้23 และผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์อาจมีส่วนผสมของยาระบายซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นลำไส้ เมื่อรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวช้าลง ขับถ่ายยาก และต้องเพิ่มขนาดยาไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ขับถ่ายได้ หรือที่เรียกว่า “ลำไส้ขี้เกียจ” (Lazy bowel) 24

วิธีรับประทาน PRO10

    รับประทานวันละ 1 ซอง โดยฉีกซอง เทเข้าปาก และดื่มน้ำตาม โดยไม่ต้องเคี้ยว ไม่ควรรับประทานพร้อมน้ำร้อน แนะนำรับประทานตอนท้องว่างหรือก่อนนอน

โปรไบโอติก โปรเท็น

PRO10 เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่มีปัญหาการขับถ่าย ท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน
  • ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้
  • ผู้ที่เป็นโรควิตกกังวล ซึมเศร้า
  • ผู้ที่มีภาวะอ้วน ไขมันสูง
  • แม่ให้นมบุตรที่มีปัญหาการขับถ่าย
  • ผู้ที่ชอบกินเลี้ยงสังสรรค์ รับประทานอาหารไขมันสูง เช่น ฟาสต์ฟู้ด หรือรับประทานบุฟเฟ่ต์เป็นประจำ
  • ผู้สูงอายุที่มีโปรไบโอติกลดลง
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวพรรณ สิวอักเสบ
PRO10 เหมาะกับใครบ้าง

ทำไม PRO10 มีรูปแบบผง

โปรไบโอติก โปรเท็น
จุดเด่นในรูปแบบผง
  • ออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ
  • คงสภาพจุลินทรีย์และสินค้าได้นานและเสถียร
  • เก็บรักษาง่าย

เทคโนโลยีการผลิตและมาตรฐานของ PRO10 มีอะไรบ้าง

  1. เทคโนโลยี Freeze Drying Technique ซึ่งเป็นกระบวนการทำให้แห้งโดยไม่ผ่านความร้อน จึงสามารถส่งจุลินทรีย์ส่งถึงลำไส้โดยไม่ถูกทำลายด้วยน้ำย่อย
  2. มาตรฐานการผลิตระดับสากล การันตีด้วยGMP
  3. กฎหมายจากกระทรวงความปลอดภัยอาหารและยา
  4. Ministry of Food and Drug Safety ประเทศเกาหลีใต้
  5. ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี ผ่านการจดทะเบียนอาหารจากอย.เลขสารบนอาหาร 10-3-25952-5-0008
GMP Korea

ข้อควรรู้ ควรระวังในการรับประทาน PRO10

  1. เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน
  2. ไม่ใช่อาหารควบคุมน้ำหนัก
  3. ควรรับประทานพร้อมน้ำ 1-2 แก้ว เพื่อป้องกันภาวะอุดตันของลำไส้ที่อาจเกิดจากบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีใยอาหารชนิดแห้ง
  4. ควรกินอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ

อ้างอิง

  1. ไชยวัฒน์ ไชยสุต. โพรไบโอติก จุลินทรีย์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ Probiotics Alternative Microorganisms for Health. นนทบุรี : สำนักการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข, 2556.
  2. Davani-Davari D, Negahdaripour M, Karimzadeh I, et al. Prebiotics: Definition, Types, Sources, Mechanisms, and Clinical Applications. Foods. 2019;8(3):92.
  3. Chapman, C. M. C., Gibson, G. R., & Rowland, I. Health benefits of probiotics: are mixtures more effective than single strains? European journal of nutrition. 2011;50(1):1-17.
  4. พงศธร ประภักรางกูล และคณะ. โพรไบโอติก Probiotics. ปทุมธานี : สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม, 2563.
  5. Verdenelli, M., Silvi, S., Cecchini, C., Orpianesi, C. and Cresci, A. Influence of a combination of two potential probiotic strains, Lactobacillus rhamnosus IMC 501® and Lactobacillus paracasei IMC 502® on bowel habits of healthy adults. Letters in Applied Microbiology. 2011; 52, 596-602.
  6. Drago L, Iemoli E, Rodighiero V, Nicola L, De Vecchi E, Piconi S. Effects of Lactobacillus Salivarius LS01 (DSM 22775) Treatment on Adult Atopic Dermatitis: A Randomized Placebo-Controlled Study. International Journal of Immunopathology and Pharmacology. October 2011:1037-1048.
  7. Khalesi, S., Bellissimo, N., Vandelanotte, C. et al. A review of probiotic supplementation in healthy adults: helpful or hype?. Eur J Clin Nutr 73. 2019: 24–37
  8. Mohammadi AA, Jazayeri S, Khosravi-Darani K, Solati Z, Mohammadpour N, Asemi Z, et al. The effects of probiotics on mental health and hypothalamic–pituitary–adrenal axis: A randomized, double-blind, placebo-controlled trial in petrochemical workers. Nutr Neurosci 2016;19(9):387–95.
  9. Elaine Patterson, Síle M. Griffin, Alvin Ibarra, Emilia Ellsiepen, Juliane Hellhammer, Lacticaseibacillus paracasei Lpc-37® improves psychological and physiological markers of stress and anxiety in healthy adults: a randomized, double-blind, placebo-controlled, and parallel clinical trial (the Sisu study), Neurobiology of Stress. 2020; 13: 2352-2895.
  10. Iwamoto T, Suzuki N, Tanabe K, Takeshita T, Hirofuji T. Effects of probiotic Lactobacillus salivarius WB21 on halitosis and oral health: an open-label pilot trial. Oral Surg Oral Med Oral Pathol Oral Radiol Endod. 2010 Aug;110(2):201-8.
  11. Mousquer CR, Della Bona A, Milani DC, Callegari-Jacques SM, Ishikawa K, Mayer MPA, Rösing CK, Fornari F. Are Lactobacillus salivarius G60 and inulin more efficacious to treat patients with oral halitosis and tongue coating than the probiotic alone and placebo? A randomized clinical trial. J Periodontol. 2020 Jun;91(6):775-783.
  12. Haukioja, A. Probiotics and oral health. European journal of dentistry. 2010;4(03), 348-355.
  13. Ishimwe, N., Daliri, E. B., Lee, B. H., Fang, F., & Du, G. The perspective on cholesterol‐lowering mechanisms of probiotics. Molecular nutrition & food research. 2015;59(1), 94-105.
  14. Ogawa, A., Kobayashi, T., Sakai, F., Kadooka, Y., & Kawasaki, Y. Lactobacillus gasseri SBT2055 suppresses fatty acid release through enlargement of fat emulsion size in vitro and promotes fecal fat excretion in healthy Japanese subjects. Lipids in health and disease. 2015;14(1), 1-10.
  15. 15. Vemuri R, Shinde T, Shastri MD, et al. A human origin strain Lactobacillus acidophilus DDS-1 exhibits superior in vitro probiotic efficacy in comparison to plant or dairy origin probiotics. Int J Med Sci. 2018;15(9):840-848.
  16. เอกลักษณ์ ทวีโรจนกุล. Probiotic & Prebiotic คู่หูกู้วิกฤตโรคในระบบทางเดินอาหาร. วารสารส่งเสริมเทคโนโลยี. 2552; ปีที่ 35, ฉบับที่ 203, หน้า 66-72.
  1. Niittynen L, Kajander K, Korpela R. Galacto-oligosaccharides and bowel function. Scand J Food Nutr. 2007;51(2):62-66.
  2. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล. Microbiota อวัยวะที่ถูกลืม. กรุงเทพฯ: พลีสเฮลท์ โซลูชั่น, 2558.
  3. Skrovanek S, DiGuilio K, Bailey R, et al. Zinc and gastrointestinal disease. World J Gastrointest Pathophysiol. 2014;5(4):496-513.
  4.  Koren O, Tako E. Chronic Dietary Zinc Deficiency Alters Gut Microbiota Composition and Function. Proceedings. 2020; 61(1):16.
  5.  Akimbekov NS, Digel I, Sherelkhan DK, Lutfor AB, Razzaque MS. Vitamin D and the Host-Gut Microbiome: A Brief Overview. Acta Histochem Cytochem. 2020;53(3):33-42.
  6. Paola B, et al. Zinc and its role in immunity and inflammation. Autoimmunity Reviews. 2015; 14(4):277-285.
  7.  Danielle Dresden. How much fiber is too much? [Online]. 2018 [cited 2022 Jan 18]. Available from: https://www.medicalnewstoday.com/articles/10279
  8.  Zawn Villines. Lazy bowel: What to know [Online]. 2019 [cited 2022 Jan 18]. Available from: https://www.medicalnewstoday.com/articles/327136

ใส่ความเห็น