8 สัญญาณว่าคุณได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ

8 สัญญาณว่าคุณได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ

       แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทำงานหลายร้อยอย่างในร่างกายของเรา รู้หรือไม่ว่า 
ถ้าระดับแมกนีเซียมในร่างกายของเราต่ำมาก อาจเกิดผลเสียตามมากับร่างกาย วันนี้เราจะพามารู้จักผลเสียของร่างกาย เมื่อขาดแมกนีเซียมกันค่ะ

หน้าที่ของแมกซีเนียม

       แมกนีเซียมมีบทบาทสำคัญในการรักษาการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ และระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้หัวใจเต้นคงที่และช่วยให้กระดูกแข็งแรง งานวิจัยบางชิ้นยังชี้ว่าแมกนีเซียมอาจมีบทบาทในการป้องกันหรือจัดการปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ตามรายงานของNational Library of Medicineสำนักงานอาหารเสริม (ODS) ประมาณการว่าเกือบครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันได้รับแมกนีเซียมน้อยกว่าที่แนะนำในแต่ละวัน 

     Vandana Sheth, RDN นักโภชนาการที่ขึ้นทะเบียนและผู้เขียน My Indian Table กล่าวว่า “ภาวะขาดสารอาหารที่เกิดขึ้นจริงไม่ใช่เรื่องปกติและอาจต่ำถึง 2 เปอร์เซ็นต์  วิธีเดียวที่จะบอกได้อย่างแน่นอนว่าคุณขาดแมกนีเซียมหรือไม่คือการตรวจเลือด ที่กล่าวว่าระดับแมกนีเซียมต่ำอาจทำให้เกิดอาการที่เห็นได้ชัดเจน ดังนี้

อาการเบื้องต้นเมื่อแมกนีเซียมต่ำ

      ในระยะเริ่มต้น ระดับแมกนีเซียมต่ำอาจไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ เลย แต่ในบางกรณี คุณอาจเริ่มสังเกตเห็นผลข้างเคียงที่จะตามมา เช่น

1. คลื่นไส้หรืออาเจียน

        การขาดแมกนีเซียมอาจทำให้คุณอาเจียน นั่นเป็นเพราะแร่ธาตุมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาทของร่างกาย  Dana Ellis Hunnes, PhD, MPH, RD นักโภชนาการอาวุโสที่ UCLA Medical Center และผู้เขียน Recipe for Survival กล่าวว่า “เส้นประสาทในทางเดินอาหารของเราอาจทำงานไม่ถูกต้อง ซึ่งนำไปสู่อาการคลื่นไส้ “การอาเจียนมักเป็นผลข้างเคียงของอาการคลื่นไส้ ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เราสูญเสียแมกนีเซียมมากยิ่งขึ้นไปอีก”

2. สูญเสียความอยากอาหาร

       การที่แมกนีเซียมในร่างกายต่ำสามารถลดความอยากอาหารของเราได้ ซึ่งเป็นผลโดยตรงของอาการคลื่นไส้ การขาดแมกนีเซียมอาจทำให้เส้นประสาทที่ส่งสัญญาณถึงความรู้สึกหิวทำงานได้ประสิทธิภาพน้อยลง

3. พลังงานต่ำ

     แมกนีเซียมมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญของเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่สารอาหารถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน”ถ้าร่างกายมีแมกนีเซียมต่ำ จะทำให้มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญลดลงและสามารถนำไปสู่ความรู้สึกอ่อนแอ เฉื่อยชา และอ่อนล้าตามมาได้

อาการเมื่อขาดแมกนีเซียมอย่างรุนแรง

รู้หรือไม่ ? การขาดแมกนีเซียมอย่างรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่เราอาจจะสังเกตอาการเบื้องต้นได้ ดังนี้

1. มีอาการชา

การที่ร่างกายเกิดอาการชา อาจเกิดจากระดับแมกนีเซียมในร่างกายที่ต่ำมาก

2. กล้ามเนื้อเป็นตะคริว

ตะคริวอาจเกิดขึ้นจากความไม่สมดุลของแร่ธาตุอิเล็กโทรไลต์ เช่น แมกนีเซียม (เช่นเดียวกับโซเดียม โพแทสเซียม หรือแคลเซียม)  ตะคริวอาจเกิดขึ้นได้เมื่อแมกนีเซียมต่ำทำให้เส้นประสาทในร่างกายทำงานผิดพลาด ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวและทำให้เกิดตะคริว ตามมาได้

3. การเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ

พฤติกรรมที่ผิดปกติเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อบุคคลนั้นขาดแมกนีเซียมอย่างรุนแรง หากการขาดแมกนีเซียมเกี่ยวข้องกับการใช้แอลกอฮอล์ (การใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ผิดอาจนำไปสู่การขาดแมกนีเซียม) การดื่มอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของแต่ละบุคคลด้วย

4. อาการชัก

“อาการชักที่เกี่ยวข้องกับการขาดแมกนีเซียมน่าจะเกี่ยวข้องกับความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งอาจเกิดจากคุณภาพอาหารโดยรวมที่ไม่ดีหรือผลกระทบของระบบประสาทของระดับแมกนีเซียมต่ำ”

5. จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ

การเต้นของหัวใจของเราเป็นการกระตุ้นเส้นประสาทเพียงเล็กน้อยที่นำไปสู่การหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ เนื่องจากแมกนีเซียมมีบทบาทสำคัญในการทำงานของเส้นประสาทที่แข็งแรงและการนำกระแสประสาท การขาดแมกนีเซียมอาจส่งผลต่อเส้นประสาทของกล้ามเนื้อหัวใจและทำให้บุคคลนั้นมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติได้

สาเหตุของการขาดแมกนีเซียม

  • การบริโภคอาหารที่มีแมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบน้อยเกินไป
  • การอาเจียนและท้องเสีย
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคกรดไหลย้อนบางชนิด ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาขับปัสสาวะ อินซูลิน และยาเคมีบำบัดบางชนิด เป็นต้น
  • ปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคไตบางชนิด โรคเกี่ยวกับลำไส้ โรคแพ้กลูเตน โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โรคพิษสุรา เป็นต้น

ร่างกายต้องการแมกนีเซียมมากแค่ไหน?

อายุ เพศชาย เพศหญิง หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร
0-6 เดือน
30 มก.*
30 มก.*
7-12 เดือน
75 มก.*
75 มก.*
1-3 ปี
80 มก.*
80 มก.*
4-8 ปี
130 มก.*
130 มก.*
9-13 ปี
240 มก.*
240 มก.*
14-18 ปี
410 มก.*
360 มก.*
400 มก.*
360 มก.*
19-30 ปี
400 มก.*
310 มก.*
350 มก.*
310 มก.*
31-50 ปี
420 มก.*
320 มก.*
360 มก.*
320 มก.*
51 ปีขึ้นไป
420 มก.*
320 มก.*

อาหารที่มีแมกนีเซียม

คุณสามารถหาแมกนีเซียมได้ในอาหารจากพืชและสัตว์หลากหลายชนิด แต่ถั่วและเมล็ดพืช ผักใบเขียว ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วและซีเรียลเสริมคือแหล่งที่ดีที่สุด

อาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียมได้แก่

  • เมล็ดฟักทอง​ 168 มก. ใน 1 ออนซ์
  • อัลมอนด์: 80 มก. ใน 1 ออนซ์
  • ผักโขม:​ 78 มก. ใน 1/2 ถ้วยสุก
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์:​ 74 มก. ใน 1 ออนซ์
  • นมถั่วเหลืองเสริม​ 61 มก. ใน 1 ถ้วย
  • ถั่วดำ:​ 60 มก. ใน 1/2 ถ้วย
  • ​ถั่วเหลือง:​ 50 มก. ใน 1/2 ถ้วย
  • ​เนยถั่ว​ 49 มก. ใน 2 ช้อนโต๊ะ
  • ​ขนมปังโฮ​ 46 มก. ใน 2 ชิ้น
  • ข้าวกล้อง: 42 มก. ใน 1/2 ถ้วยสุก
  • ​โยเกิร์ตธรรมดา​ 42 มก. ใน 1 ถ้วย
  • ​กล้วย:​ 32 มก. ใน 1 เม็ด
  • นม:​ 24 ถึง 27 มก. ใน 1 ถ้วย
  • แซลมอน:​ 26 มก. ใน 3 ออนซ์

ใส่ความเห็น