ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System)
ระบบภูมิคุ้มกันเป็นกลไกการทำงานของร่างกายระบบหนึ่ง ที่เป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกายซึ่งทำหน้าที่ป้องกันหรือต่อต้านไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายหรือเกิดการติดเชื้อจากเชื้อโรคเหล่านั้น โดยมีเซลล์เม็ดเลือดขาว (white blood cell,(WBC) หรือ leucocyte) ทำหน้าที่ในการ ทำหน้าที่ต่อต้านและทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งหลังจากการฉีดวัคซีนจะทำให้ร่างกายของเราเกิดภูมิคุ้มกันมากขึ้น วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับภูมิคุ้มกันหลังจากการฉีดวัคซีนกันค่ะ
ประเภทของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
- ภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด (Innate Immunity) คือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นเองเพื่อป้องกันและสกัดเชื้อโรค ทำให้มนุษย์ปลอดภัยจากสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่น ทำให้มนุษย์ปลอดภัยจากการติดเชื้อที่มาจากสัตว์อื่น ๆ เช่น ผิวหนัง และเยื่อบุต่างๆ ซึ่งเป็นการป้องกันเชื้อโรคชั้นแรก
- ภูมิคุ้มกันแบบเจาะจง (Adaptive Immunity) คือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองหลังจากเกิดอาการเจ็บป่วย โดยจะไม่ติดเชื้อเดิมอีก
- ภูมิคุ้มกันแบบรับมาจากภายนอก (Passive Immunity) คือภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากภายนอกร่างกายเพื่อช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น เด็กที่ดื่มนมแม่จะได้รับภูมิคุ้มกันจากน้ำนมแม่ การฉีดวัคซีน การทานอาหารที่มีส่วนในการช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแต่ละคนจะแตกต่างกันไป เมื่อผ่านการติดเชื้อใด ๆ มาจะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อนั้น ๆ มากขึ้น จากการจดจำเชื้อโรคได้จึงช่วยให้ป้องกันเชื้อโรคเหล่านั้นได้ดีขึ้นนั่นเอง
ในปัจจุบันคนไทยได้มีการฉีดวัคซีนอยู่ 2 ชนิด นั้นคือ “ซิโนแวค” หรือ “แอสทราเซเนก้า” ซึ่งหลังจากการฉีดวัคซีนปรากฏว่าภูมิคุ้มกันในแต่ละบุคคลเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
- วัคซีนซิโนแวค เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated Vaccine) ซึ่งเป็นประเภทดียวกับวัคซีนที่ใช้กันอยู่หลายๆวัคซีน เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ
- ประเทศผู้ผลิต : จีน
- ประสิทธิภาพในการป้องกัน : 50%
- จำนวนโดส : 2 โดส *ระยะการฉีดห่างกัน 2 สัปดาห์
- ผลข้างเคียง : ปวดหัว ชาตามร่างกาย หลังรับวัคซีน
ซึ่งจากผลการทดลองพบว่า มีประสิทธิภาพการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสูงถึง 99.49% หรือพบ 196 คน จาก 197 คน ที่มีภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนเข็มแรก 4 สัปดาห์
- วัคซีนแอสทราเซเนก้า เป็นวัคซีนชนิดไวรัสเวกเตอร์ (Virus Vector) พาสารพันธุกรรมของไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายสร้างโปรตีนเลียนแบบไวรัส จากนั้นโปรตีนนี้จะมากระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ต่อไวรัสขึ้นมา
- ประเทศผู้ผลิต : สวีเดน & อังกฤษ
- ประสิทธิภาพในการป้องกัน : 70 – 80%
- จำนวนโดส : 2 โดส *ระยะการฉีดห่างกัน 4-12 สัปดาห์
- ผลข้างเคียง : ปวดบริเวณที่ฉีด ไข้ อ่อนเพลีย หลังรับวัคซีน
ซึ่งจากผลการทดลองพบว่า มีประสิทธิภาพการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสูงถึง 97.26% หรือพบ 71 คน จาก 73 คน ที่มีภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนเข็มแรก 4 สัปดาห์


ถาม - ตอบ จากผู้เชี่ยวชาญ
ถาม
หลังฉีดวัคซีนแล้วยังมีโอกาสเป็นโควิดหรือไม่ ?
ตอบ
เนื่องจากวัคซีนไม่สามารถป้องกัน COVID -19 ได้ 100% ดังนั้น แม้ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังมีโอกาสเป็นอยู่ แต่สามารถลดความรุนแรงของโรคได้อย่างชัดเจน ซึ่งหลังฉีดวัคซีนแนะนำให้ปฏิบัติตัวด้วยการเว้นระยะห่างและการสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อเดินทางออกนอกบ้านอยู่เสมอ
ถาม
ฉีดวัคซีนแล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง อันตรายหรือไม่ ?
ตอบ
ผลข้างเคียงที่พบจากวัคซีนส่วนใหญ่เป็นผลข้างเคียงเฉพาะที่ เช่น อาการปวดบริเวณที่ฉีด และผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง เช่น ไข้ต่ำๆ เมื่อยล้า เป็นต้น
ถาม
คนสูงอายุควรฉีดวัคซีนชนิดไหน ?
ตอบ
สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป แนะนำให้ฉีดวัคซีนของแอสทราเซเนก้า เนื่องจากมีผลการศึกษาที่รายงานถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในกลุ่มผู้สูงอายุ สำหรับวัคซีนซิโนแวคข้อมูลการศึกษา ส่วนใหญ่มาจากผู้รับวัคซีนในช่วงอายุ 18-59 ปี แต่ในผู้ที่อายุเกิน 60 ปีข้อมูลการศึกษายังมีน้อย ในประเทศไทยจึงยังไม่มีการใช้วัคซีนตัวนี้ในผู้สูงอายุ
ถาม
เด็กควรฉีดวัคซีนโควิดหรือยัง ?
ตอบ
วัคซีนโควิดทั้งซิโนแวคและวัคซีนของแอสทราเซเนก้ายังไม่มีข้อมูลการศึกษาในคนอายุน้อยกว่า 18 ปี จึงยังไม่มีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีน และหากต้องการฉีดควรปรึกษาแพทย์
ถาม
หญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนโควิดได้หรือไม่ ?
ตอบ
วัคซีนโควิดทั้งซิโนแวคและวัคซีนของแอสทราเซเนก้ายังไม่มีข้อมูลการศึกษาในหญิงตั้งครรภ์ จึงยังไม่มีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนในเด็ก และหากต้องการฉีดควรปรึกษาแพทย์
ถาม
หลังฉีดวัคซีนโควิดต้องตรวจภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือไม่ ?
ตอบ
หลังฉีดวัคซีนโควิดไม่มีความจำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกัน ยกเว้นมีวัตถุประสงค์ในการตรวจเพื่อการเก็บข้อมูลศึกษาวิจัยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนครบตามโดสที่กำหนดและให้ความสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำในขณะนี้ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันหมู่อย่าลืมไปฉีดวัคซีน เพื่อสุขภาพของคุณและคนที่คุณรักกันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิงที่มา :
- https://www.prachachat.net
- https://www.scimath.org
- https://www.paolohospital.com
- https://www.hfocus.org
- https://www.ram-hosp.co.th
- https://www.synphaet.co.th